Home || รถตู้เช่าเหมาหาดใหญ่ || เรือหางยาวเช่าเหมา || รถตู้เช่าตรัง พัทลุง ||

ทริปเบตง โครงการเที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนภาษี สูงสุด 15,000 บาท

ทัวร์เบตง 3 วัน 2 คืน บินตรงจากดอนเมือง-หาดใหญ่ เข้าร่วมโครงการ เที่ยวเมืองรองลดหย่อนภาษี ได้สูงสุด 15,000 บาท

 

 

จัดกรุ๊ป ทัวร์ตรัง || จัดกรุ๊ป ทัวร์ปีนัง || จัดกรุ๊ปทัวร์มาเลเซีย || จัดกรุ๊ปทัวร์พัทลุง || รถตู้เช่าเหมาเบตง
หน้าแรก
รวมทัวร์เบตง
เช่าเหมาเรือหางยาวหลีเป๊ะ
ทัวร์หลีเป๊ะ 1 วัน
ทัวร์หลีเป๊ะ 2 วัน 1 คืน
ทัวร์หลีเป๊ะ ลังกาวี 4 วัน 3 คืน
รถเช่าเบตงขับเอง
ทัวร์เบตง สงขลา 3 วัน 2 คืน

เที่ยวสนุกทัวร์ พาเที่ยวเมืองรอง เบตง ร่วมโครงการรัฐ ลดหย่อนภาษี สูงสุด ต่อคน 15,000 บาท

เบตง เสน่ห์ในม่านหมอก ใต้สุดแดนสยาม ชมทะเลหมอก 3 วัน 2 คืน เสริมสิริมงคล ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สายมู ต้องไปแล้ว

จอยกรุ๊ปครบ 8 คน คอนเฟิร์มเดินทาง

เดินทางช่วง ก.ค. - พ.ย. 67
ขึ้นลง สนามบินดอนเมือง SL / DD / FD

สุดยอดไฮไลท์ ต้อง (ห้าม) พลาด
- ไหว้ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
- ขอพรหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้
- ล่องเรือทะเลสาป ฮาลาบาลา ไปเกาะทวด ขอพร โชคลาภ
- ชมทะเลหมอกแดนใต้ ณ อัยเยอเวง
- ลิ้มลองเมนูเด็ด อาทิ ไก่เบตง เคาหยก จิ้มจุ่มปลานิลสายน้ำไหล เฉาก๊วยวุ้นดำ กม.4 เป็นต้น
- พักเบตง โรงแรม 3 ดาว
FT-BETDM02V-เบตง มนต์เสน่ห์ทะเลหมอก ล่องเรือได้บุญ ชมทะเลสาบเกาะทวด 3 วัน 2 คืน

 

 

แพคเกจเที่ยวเบตง 3 วัน 2 คืน โครงการเที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนภาษี 15,000 บาท

- ขึ้นสกายวอล์ค ชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ชมทะเลหมอกแบบ 360 องศา
- ชมชุมชนกือดาจีนอ (ชุมชนตลาดจีน), สักการะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
- ชมจุดไฮไลท์สตรีทอาร์ตเบตง, ตู้ไปรษณีย์โบราณ, อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ และป้ายใต้สุดสยาม
- ชมอุโมงค์ปิยะมิตร ๑ (ต้นไม้พันปี), แช่เท้า บ่อน้ำพุร้อนเบตง
- เต็มอิ่มกับ เมนูชื่อดัง ไก่สับเบตง, เคาหยก และ อีกหลากหลายเมนู

 

รายละเอียดการเดินทาง ::

วันแรก

กรุงเทพฯ สนามบินดอนเมือง – หาดใหญ่ – วัดช้างให้ – ปัตตานี – จุดชมวิวสะพานข้ามเขื่อนบางลาง – จุดเช็คอินป้ายโอเคเบตง – สตรีทอาร์ต – วงเวียนหอนาฬิกา – ตู้ไปรษณีย์โบราณ – อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์

04.00 น.

คณะพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง บริเวณอาคาร 2 ผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินรับบัตรโดยสาร เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 20 นาที เนื่องจากตั๋วเครื่องบินของคณะเป็นตั๋วชั้นประหยัดพิเศษ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกันและไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนเครื่องบินได้ในคณะเป็นไปตามเงื่อนไขสายการบิน

06.15 น.

ออกเดินทางบินลัดฟ้าสู่ หาดใหญ่ โดย สายการบินไลอ้อนแอร์ (Lion Air) เที่ยวบินที่ SL702 หรือ สายการบิน แอร์เอเชีย (Air Asia) เที่ยวบินที่ FD 3102 เดินทางระหว่างเวลา 06:40 - 08:05

ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนสายการบินในกรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบิน การเปลี่ยนแปลงเวลาเดินทางของเที่ยวบิน หรือจำนวนที่นั่งไม่เพียงพอ

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 35 นาที ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

07.45 น.

เดินทางถึง สนามบินหาดใหญ่ ให้ท่านรับสัมภาระให้เรียบร้อย ไกด์นำเที่ยวรอท่านอยู่ด้านนอกที่จุดนัดพบ จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่จังหวัดยะลา โดยรถตู้ปรับอากาศ (ระยะทาง 140 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง โดยประมาณ) จากนั้นนำท่านชม วัดช้างไห้ หรือ วัดราษฎร์บูรณะ ตั้งอยู่ที่ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์ สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี ตามตำนานกล่าวว่า พระยาแก้มดำเจ้าเมืองไทรบุรี ต้องการหาชัยภูมิสำหรับสร้างเมืองใหม่ให้กับน้องสาว จึงได้เสี่ยงอธิฐาน ปล่อยช้างให้ออกเดินทางไปในป่า โดยมีเจ้าเมืองและไพร่พลเดินติดตามไป จนมาถึงวันหนึ่ง ช้างได้หยุดอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง แล้วร้องขึ้นสามครั้ง พระยาแก้มดำจึงได้ถือเป็นนิมิตที่ดี จะใช้บริเวณนั้นสร้างเมือง แต่น้องสาวไม่ชอบ พระยาแก้มคำจึงให้สร้างวัด ณ บริเวณดังกล่าวแทน แล้วให้ชื่อว่า วัดช้างไห้ แล้วนิมนต์พระภิกษุรูปหนึ่ง ที่ชาวบ้านเรียกว่า สมเด็จพะโคะ หรือ หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดและอัฐิของท่านก็ถูกบรรจุไว้ที่วัดแห่งนี้ อิสระให้ท่านไหว้พระขอพร หรือเช่าบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดตามอัธยาศัย

กลางวัน

บริการอาหารกลางวัน

บ่าย

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางต่อไปยัง อำเภอเบตง ระหว่างทางนำท่านจอดแวะถ่ายรูปบริเวณ สะพานข้ามเขื่อนบางลางบริเวณบ้านคอกช้าง อำเภอธารโต สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อล่นระยะทางในการเดินทาง จากเดิมที่จะต้องไปตามไหล่เขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงหมายเลข 410 ยะลา – เบตง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะพักถ่ายรูปและยืดเส้นยืดสาย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อำเภอเบตง ตั้งอยู่ใต้สุดฝั่งตะวันตกของประเทศไทย มีเขตแดนติดกับประเทศมาเลเซีย โอบล้อมด้วยแนวเทือกเขาสันการาคีรี ภูมิประเทศของอำเภอเบตง ด้วยภูมิประเทศแบบนี้จึงทำให้เบตงมีอากาศที่ดี อากาศเย็น และมีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี ดังคำขวัญประจำอำเภอที่ว่า “เมืองในหมอก ดอกไม้งาม ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน” คำว่า เบตง มาจากภาษามลายู "Buluh Betong" หมายถึง "ไม้ไผ่ขนาดใหญ่" นำท่านแวะจุดเช็คอินสุดฮิต ให้ท่านอิสระถ่ายรูป ป้ายโอเคเบตง จากนั้นนำคณะเดินชมจุดเด่นที่ได้รับความนิยมของตัวเมืองเบตงได้แก่ สตรีทอาร์ท หรือ ถนนศิลปะ งานศิลปะที่สะท้อนเรื่องราวและวิถีชีวิตของความเป็นเบตงได้อย่างดี จุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ผลงานที่งดงามดังกล่าว เกิดจากทาง อ.เบตง จ.ยะลา ได้มีการจัดงาน 111 ปี เล่าขานตำนานเมืองเบตง จุดประสงค์เพื่อสร้างหมุดหมายที่แสดงออกถึงวิถีชีวิตของชาวเบตง

 

จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ วงเวียนหอนาฬิกาเบตง และ ตู้ไปรษณีย์โบราณ ในส่วนของตัวหอนาฬิกาสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนขาวที่มีอยู่มากในจังหวัดยะลา หอนาฬิกาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหรือจะเรียกว่าเป็นสะดือของเมืองเบตงก็ว่าได้ ในเทศกาลต่าง ๆ ที่จัดขึ้น มักจะใช้บริเวณหอนาฬิกานี้เป็นจุดนัดหมายในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตู้ไปรษณีย์โบราณ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2482 สูง 2.9 เมตร ในปัจจุบันนี้ตู้ไปรษณีย์แห่งนี้ยังเปิดใช้งานได้ และนักท่องเที่ยวมักจะซื้อโปสการ์ด เขียนและส่งจดหมายถึงญาติคนรัก หรือส่งถึงตัวเอง
เก็บไว้เป็นความทรงจำ จากนั้นนำท่านชม อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อุโมงค์ขนาดใหญ่ที่เจาะผ่านภูเขาเพื่อเชื่อมต่อส่วนขยายของเมือง
ไปอีกฟากของตัวเมืองเป็นอุโมงค์ที่ผู้คนสามารถใช้สัญจรไปมาด้วยรถยนต์แห่งแรกของประเทศไทย

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ

ที่พัก

New Cathay Hotel Betong หรือ เทียบเท่าระดับ 3 ดาว

 

วันที่สอง
วัดพุทธาธิวาส – วัดกวนอิม – ป้ายใต้สุดสยาม – ร้านของฝากเมืองเบตง – ร้านวุ้นดำต้นตำรับ (เฉาก๊วย กม. 4) – อุโมงค์ปิยะมิตร ๑ – บ่อน้ำพุร้อน – ศาลาประชาคมเบตง

เช้า

รับประทานอาหารเช้า แบบ ติ่มซำ

 

จากนั้นเดินทางไปยัง วัดพุทธาธิวาส วัดคู่เมืองเบตง เดิมชื่อวัดเบตง ก่อตั้งเมื่อ เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2460 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย พื้นที่ตั้งวัดเป็นเนินเขาสูงเอียงลาดลงไปทางทิศเหนือ จัดแบ่งพื้นที่วัดออกเป็นชั้นทั้งหมด 5 ชั้น ตั้งเด่นสง่าอยู่บนเนินเขามีพระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศตั้งโดดเด่นมองเห็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์
โดยในองค์มหาธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล

 

จากนั้นนำท่านสู่ วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง หรือวัดกวนอิมตั้งอยู่บริเวณเนินเขาของสวนสุดสยาม วัดแห่งนี้เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพสำคัญๆหลายองค์ อาทิ เจ้าแม่กวนอิม ท่านแป๊ะกง ท่านกวงกง เจ้าแม่จิวหวังเหย่ ยี่หวังต้าตี้ หวาโถ่วเซียนซื่อ ขงจื้อ เป็นต้น มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและมาเลเซียเลื่อมใสศรัทธาเดินทางมาสักการะขอพรเป็นจำนวนมาก ส่วนมากจะขอพรให้ได้มีบุตรและโชคลาภ จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยังบริเวณพรมแดน ไทย – มาเล ฯ จุดผ่านแดนถาวรที่เชื่อมระหว่างสองประเทศ ถ่ายรูปกับ ป้ายใต้สุดสยาม ถือเป็นจุดเช็คอินไฮไลท์อีกหนึ่งจุดว่าท่านได้มาเยือนถึงแนวเขตแดนใต้สุดของประเทศไทย จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง ร้านของฝากเบตง ให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากจากท้องถิ่น เช่น หลินจือเบตง, บัวหิมะเบตง, ชาก๊กโป่ว และชาต้าลี่หวัง เป็นต้น จากนั้นนำท่านสู่ ร้านวุ้นดำ กม.4 ต้นตำหรับอร่อยระดับตำนาน พิเศษ…เสิร์ฟเฉาก๊วยท่านละ 1 ถ้วย เฉาก๊วยใช้วิธีทำแบบดั้งเดิม ต้มเคี่ยวหญ้าเฉาก๊วยด้วยเตาฟืน ซึ่งจะทำให้มีกลิ่นหอมและมากไปด้วยสรรพคุณทางยา ให้ท่านได้ซื้อเป็นของฝาก

กลางวัน

บริการอาหารกลางวัน

บ่าย

จากนั้นนำท่านชม อุโมงค์ปิยะมิตร ตั้งอยู่บ้านปิยะมิตร 1 ตำบลตะเนาะแมเราะ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่ในอดีตเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการทหารของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) ว่ากันว่าฐานที่มั่นแห่งนี้เป็นฐานที่มั่นในแนวหลังของสงครามระหว่าง พคม กับ รัฐบาลมาเลเซีย ที่แข็งแกร่งที่สุด เคยถูกทิ้งระเบิดถึง 2 ครั้ง เป็นอุโมงค์ที่ขุดลึกลงไปในชั้นดิน จุดที่ลึกที่สุดมีความลึกถึง 6 เมตร ใช้กำลังคน 60 – 80 คน อุโมงค์มีความกว้าง 50 – 60 ฟุต ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร และมีทางเข้าออกถึง 9 ทาง เชื่อมต่อถึงกันหมด กระจายอยู่รอบๆ ภูเขา ภายในอุโมงค์นั้น สามารถจุคนได้มากถึง 400 คน ภายในอุโมงค์มีโรงพยาบาลสนาม ห้องส่งสัญญาณวิทยุระยะไกล ห้องปฏิบัติงานวางแผน

นำท่านเดินทางกลับ แวะพักผ่อนที่ บ่อน้ำพุร้อนเบตง บ่อน้ำพุร้อนเป็น บ่อน้ำแร่ร้อนตามธรรมชาติขนาดใหญ่ประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย โดยอุณหภูมิของบริเวณจุดตาน้ำนั้นอยู่ที่ 60 – 80 องศาเซลเซียส และนักท่องเที่ยวมักจะทำกิจกรรมครอบครัว คือ นำไข่ไก่ ไข่นกกระทา มาลวก โดยใช้เวลาเพียง 7 นาทีเท่านั้น นำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมืองเบตง แวะชมและถ่ายรูปด้านนอก ศาลาประชาคม ชมหอนาฬิกาโบราณและตู้ไปรษณีย์ยักษ์ที่ได้จำลองแบบมาจากของเดิม

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ เมนูพิเศษ ไก่สับเบตง, เคาหยก และ แกงจืดลูกชิ้นแคระ

ที่พัก

New Cathay Hotel Betong หรือ เทียบเท่าระดับ 3 ดาว

วันที่สาม
สกายวอล์คชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง – สะพานแขวนแตปูซู – ล่องเรือเกาะทวด – ปัตตานี – ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว – บ้านขุนพิทักษ์รายาด้านนอก – หาดใหญ่ – ตลาดกิมหยง – สนามบินหาดใหญ่ – สนามบินดอนเมือง

รวมค่าบริการรถขึ้น - ลง จุดจอดรถไปยังสกายวอร์ค ไม่รวมค่าถุงผ้าครอบรองเท้า 30 บาท

(การเที่ยวชมทะเลหมอก อาจมีการสลับสับเปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

04.00 น.

นำท่านออกเดินทางไปชม ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ตำบลอัยเยอร์เวง ที่ตั้งมีความสูง จากระดับน้ำทะเล 2,038 ฟุต จุดชมวิว ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ขึ้นชื่อในเรื่องของการชมพระอาทิตย์ขึ้น ควบคู่ไปกับการชมทะเลหมอกอันสวยงาม ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาชมในฤดูไหนก็มีโอกาสที่จะได้เห็นวิวทิวทัศน์เบื้องหน้าที่เป็นทะเลหมอกตลอดทั้งปี ทะเลหมอกที่ก่อตัวจากผืนป่า ฮาลา–บาลา ทะเลสาบเขื่อนบางลาง รวมถึงสามารถมองไปไกลได้ถึงประเทศมาเลเซียเลยทีเดียว นำท่าน ขึ้นจุดชมวิว Skywalk ชมทัศนียภาพรอบทิศทางแบบ 360 องศา

เช้า

บริการอาหารเช้า

สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางต่อไปยัง สะพานแขวนแตปูซู แวะถ่ายรูปกับสะพานไม้ สะพานแขวนแห่งนี้ใช้งานมาหลายสิบปี วัตถุประสงค์หลักที่สร้างขึ้นนั้น ในอดีตชาวบ้านใช้ขนถ่ายสินค้าทางการเกษตร เช่น ผลไม้ ยางพารา และใช้สัญจรของชาวสวนในพื้นที่ ตัวสะพานมีความกว้าง 1.8 เมตร ยาว 100 เมตร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่จังหวัดปัตตานี จากนั้นนำท่าน ล่องเรือทะเลสาบฮาลาบาลา เกาะทวด (สักการะองค์ปู่ทวดบูเกี๊ยะ) ขึ้นเรือที่ ท่าเรือตาพะเยา นำท่านล่องเรือชมธรรมชาติบนทะเลสาบฮาลาบาลา ซึ่งถือเป็น Unseen ของจังหวัดยะลา แวะขึ้นเกาะทวด เกาะทวดตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบฮาลาบาลา ผู้คนที่หลั่งไหลและเดินทางมายังเกาะทวด ล้วนแต่เดินทางมาตามความเชื่อและความศรัทธา สำหรับใครที่รักในการเสี่ยงโชค รับรองจะไม่ผิดหวังเพราะทวดบูเกี๊ยะ ขึ้นชื่อในเรื่องของการให้โชคลาภเป็นอย่างมาก ขอพรขอโชคลาภ

กลางวัน

บริการอาหารกลางวัน

จากนั้นนำท่านชม ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เชื่อกันว่าผู้มาขอพรให้โชคลาภจะได้ผล หรือแม้แต่การค้าขายที่ซบเซาหรือก็กลับ รุ่งเรืองขึ้นจนทำให้เกิดความนับถือศรัทธาอย่างมาก ชาวปัตตานีจึงได้นำต้นไม้ที่ลิ้มกอเหนี่ยวผูกคอตายมาแกะสลักเป็นรูปบูชาและรสร้างศาลเจ้าขึ้นสักการะ สำหรับองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความเมตตาโชคลาภ ค้าขาย ซึ่งเป็นที่นิยมมากราบไหว้ของพรเพื่อเป็นศิริมงคลกับชีวิต

จากนั้นนำท่านชม ชุมชนกือดาจีนอ เป็นภาษามลายู ซึ่งคำว่า กือดา แปลว่า ตลาด ส่วนคำว่า จีนอ แปลว่า จีน เป็นย่านเมืองเก่าที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านการค้าในอดีต เป็นชุมชนที่มีการผสมผสานทางพหุวัฒนธรรม ซึ่งบ้านเรือนในชุมชนจีนแห่งนี้มีความเก่าแก่ส่วนใหญ่มีอายุหลายร้อยปี จากนั้นนำท่านชมด้านนอก บ้านขุนพิทักษ์รายา สร้างขึ้นมาประมาณปี พ.ศ. 2460 อายุกว่า 100 ปี บ้านขุนพิทักษ์รายาเป็นเรือนแถว 2 ชั้น 2 คูหา 2 ช่วงเสา รูปแบบของตึกแถวมีการประยุกต์ระหว่างสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นและสถาปัตยกรรมจีน

ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานของชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี
และเป็นภาพสะท้อนความเจริญรุ่งเรืองของย่านนี้ อีกทั้งยังมีการบันทึกกล่าวถึงตำแหน่งของบ้านขุนพิทักษ์รายาในสมัยรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสปัตตานี และมีภาพบ้านขุนพิทักษ์รายาปรากฏอยู่ในภาพถ่ายในช่วงปี พ.ศ.2484 นำท่านเดินทางสู่หาดใหญ่ จากนั้นนำท่าน อิสระช้อปปิ้ง ตลาดกิมหยง ให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากอาทิเช่น อาหารแห้ง กาแฟ ขนมขบเคี้ยว ถั่วต่างๆ เครื่องสำอาง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าส่วนใหญ่เป็นสินค้าปลอดภาษีจากประเทศเพื่อนบ้านวางขายอยู่ทั่วไป ในราคาย่อมเยา ให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

ค่ำ

อิสระอาหารค่ำ

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินหาดใหญ่

21.50 น.

ออกเดินทางบินลัดฟ้ากลับสู่ หาดใหญ่ โดย สายการบิน ไลอ้อนแอร์ (Lion Air) เที่ยวบินที่ SL721 21.50 - 23.20 หรือ สายการบิน แอร์เอเชีย (Air Asia) เที่ยวบินที่ FD 3113 เดินทางระหว่างเวลา 22:00 - 23:35

ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนสายการบิน ในกรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบิน, การเปลี่ยนแปลงเวลาเดินทางของเที่ยวบินหรือจำนวนที่นั่งไม่เพียงพอ

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

23.20 น.

เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

 

อัตราค่าบริการนี้รวม

1.ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินชั้นประหยัด เดินทางไปกลับตามเส้นทางและวันที่ระบุในรายการ
2.ค่าน้ำหนักสัมภาระถือขึ้นเครื่อง 7 กิโลกรัม /ท่าน/เที่ยวบิน
3.ค่ารถตู้ปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการตลอดทั้ง 3 วัน
4.ค่าที่พักระดับ 3 ดาว ตามรายการ 2 คืน พักห้องละ 2 - 3 ท่าน หรือ 3 ท่านกรณีมาไม่ครบคู่และไม่ต้องการเพิ่มเงินพักห้องเดี่ยว
5.ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ (ทางบริษัทสงวนสิทธิในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์)
6.ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามที่ระบุในรายการ
7.ค่าประกันชีวิตกรณีอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทาง คุ้มครองในวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุในวงเงินไม่เกิน ท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
8.ค่ามัคคุเทศก์ผู้ชำนาญผู้ชำนาญเส้นทาง ตลอดทั้ง 3 วัน

 

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

1.ค่าอาหารบนเครื่องบิน, ค่าเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน, ค่าเลือกที่นั่งบนรถนำเที่
2.ค่าน้ำหนักสัมภาระโหลดใต้เครื่อง
3.ค่าบริการโหลดกระเป๋าสัมภาระใต้เครื่อง
4.ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
5.ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าเครื่องดื่มและค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเอง, ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษนอกรายการ ค่าซักรีด, ฯลฯ
6.ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ, โรคระบาด, การประท้วง, การจลาจล, การนัดหยุดงาน, การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
7.ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถ 400 บาท /ทริป/ท่าน

 

ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เราต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อไปชมความสวยงามในยามเช้า

 

 

 

 

เลือกทัวร์เบตงรับส่งจากหาดใหญ่

1. ทัวร์เบตง ปัตตานี 3 วัน 2 คืน

2. ทัวร์เบตง หาดใหญ่ สงขลา 4 วัน 3 คืน

3. ทัวร์เบตง 2 วัน 1 คืน

เช่ารถตู้เหมาเที่ยเบตง ราคาไม่รวมน้ำมัน

ตั๋วเรือ จากหลีเป๊ะ ไป เกาะลังกาวี
ทัวร์ทะเลตรัง
ทัวร์ดำน้ำกระบี่
ทัวร์ปีนัง
ทัวร์เก็นติ้ง มาเลเซีย

 

 

 

13 ที่เที่ยวเบตง 2 วัน 1 คืน เที่ยวครบทุกจุด

1.ถ่ายรูปสะพานเขื่อนบางลาง ทะเลสาบฮาลาบาลา

ระหว่างเส้นทางหาดใหญ่ไปเบตง จุดท่องเที่ยวแรกที่ไม่ควรพลาดเราจะนั่งรถผ่านสะพานขนาดใหญ่ที่ใช้ข้ามทะเลสาบฮาลาบาลา ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างหุบเขาสร้างบรรยากาศที่เย็นสบายเหมาะกับการได้นั่งพักผ่อนและสูดอากาศอันบริสุทธิ์ เราแวะรถให้ท่านได้ถ่ายรูปที่สะพานข้ามเขื่อนบางลาง ทะเลสาบฮาลาบาลายังมีเรือสำหรับการล่องชมธรรมชาติของเขื่อนบางลางด้วย แต่ต้องมีเวลาล่องอย่างน้อย 3 ชม.ถึงจะคุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายไป สำหรับทริปนี่เราแวะถ่ายรูปไม่ได้นั่งเรือไปชมบรรยากาศจากบนเรือนะครับเนื่องจากเรามีเวลามาเที่ยวเบตงแค่ 2 วัน 1 คืน

สันเขื่อนบางลาเป็นจุดชมวิวและถ่ายรูปก่อนเข้าตัวเมืองเบตง วิวดีมาก...

 

 

 

2.อุโมงค์ปิยมิตร เบตง อุโมงค์ประวัติศาสตร์ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยที่ยะลายังมีกลุ่มคอมมิวนิสต์

ปัจจุบันอุโมงค์แห่งนี้มีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร และได้จัดให้มีทางเข้าออกได้ 6 ทางจากเดิมที่ในสมัยคอมมิวนิสต์มีทางเข้าออกถึง 9 ทางด้วยกัน ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาและป่าจำนวนมากทำให้ที่นี่จึงเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์อย่างดีในการรบและการป้องกันจากผู้รุกราน การเดินทางท่องเที่ยวภายในอุโมงค์ปิยมิตรมีอากาศเย็นสบายไม่อึดอัด เพราะสมัยก่อนเป็นที่อยู่ของทหารซึ่งสามารถจุคนในเวลาเดียวกันได้ถึง 200 คนเลยทีเดียว

อุโมงปิยมิตรเป็นอีกหนึ่งจุดที่มีเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ของเมืองเบตง

 

3.สะพานแขวนแตปูซู สะพานโบราญข้ามแม่น้ำอัยเยอร์เวง จุดเช็คอินสุดแท่

เป็นสะพานข้ามแม่น้ำยาวกว่า 100 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อวัถุประสงค์เพื่อให้ชาวบ้านทั้งสองฝั่งแม่น้ำสามารถข้ามไปมากันได้
สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนที่จะมีสะพานชาวบ้านใช้วิธีการข้ามแม่น้ำโดยการใช้แพทำให้มีความยากลำบากสำหรับเด็กๆ
และผู้หญิงโดยเฉพาะช่วงที่เป็นฤดูฝนบริมาณน้ำในลำคลองจะเพิ่มสูงขึ้นมากด้วย จนทำให้ชาวบ้านและกำนันตำบลอัยเยอร์เวง นายมูเซ็ง แตปูซู ได้สร้างสะพานขึ้นมาใช้งานจนถึงปัจจุบันและได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเมืองเบตงถึงปัจจุบัน

 

 

สอบถามรายละเอียดโปรแกรมทัวร์เบตงเพิ่มได้ทางไลน์นะครับ (กดตรงสีเขียวได้เลยครับ)

 

 

4.สนามบินเบตง เอกลักษณ์สนามบินที่สวยงามการตกแต่งผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมปักษ์ใต้
และสไตล์โมเดิร์นสมันใหม่

บนเนื้อที่กว่า 920 ไร่กลายเป็นสนามบินที่นักท่องเที่ยวต้องการไปถ่ายรูปและชมความสวยงามของสนามบินกลางหุบเขาที่อากาศดี เป็นสนามบินขนาดเล็กที่รู้สึกอบอุ่นเมื่อเข้ามาภายในอาคารผู้โดยสาร สนามบินเบตงก่อสร้างเมื่อปี 2560 แต่เปิดใช้อย่างเป็นทางการในปี 2565 อาคารสนามบินสามารถรองรับผู้โดยสารในเวลาเดียวกันได้ประมาณ 300 คน มีลานจอดรถสะดวกสบายทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเบตงผ่านมาทางนี้ก็ขอแวะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกันสักหน่อย

สนามบินเบตงมีการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปมุมสวยๆของสนามบินเบตงกันเป็นจำนวนมาก

 

 

5.บ่อน้ำพุร้อนเบตง แช่เท้าก็สบาย ต้มไข่ก็อร่อย ร่มรื่นด้วยต้นไม้และที่นั่งสะดวกสบาย ผ่อนคลายมากๆ

เมื่อเดินท่องเที่ยวเมื่อยเราควรแวะแช่เท้าที่บ่อน้ำพุร้อนเบตง เป็นบ่อจากธรรมชาติที่ประกอบด้วยแร่ธาตุต่างๆมากมายบนเนื้อที่กว่า 3 ไร่ อุณหภูมิที่บ่อหลักประมาณ 80 องศา ซึ่งสามารถต้มไข่สุขได้และมีจุดขายไข่สำหรับท่านที่ต้องการทำกิจกรรมต้มไข่จากน้ำพุร้อน ทางการของเบตงได้จัดภูมิทัศให้บริเวณบ่อน้ำร้อนเบตงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้นักท่องเที่ยวทั่วไปที่มาเยือนเบตง และคนในพื้นที่เบตงและจังหวัดใกล้เคียงมาบำบัดร่างกายมีห้องอาบน้ำและบ่อสำหรับอาบและแช่เท้าได้สะดวกมากๆเลยครับ นอกจากนี้ยังจัดให้มีที่นั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้และร้านค้า ร้าอาหารด้านหน้าบ่อน้ำพุร้อนอีกด้วย

 

 

6. สวนหมื่นบุปผาหรือสวนไม้ดอกเมืองหนาว....จุดรวมดอกไม้ ต้นไม้เมืองหนาวและผักปลอดสารพิษ

ตั้งอยู่ที่ บ้านตะโน๊ะแม่โระ ตำบลตะโนแม่โระ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา สวนหมื่นบุปผาตั้งอยู่กลางหุบเขาที่มีความอุดมสมบรูณ์ทั้งน้ำ อากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปีจึงทำให้ที่นี่มีการปลูกผักและดอกไม้เมืองหนาวตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปและซื้อผัก ซื้อต้นไม้ที่ชอบ ซึ่งเดิม สวนหมื่นบุปผา เคยเป็นหมู่บ้านของผู้ที่เข้าร่วมพัฒนาชาติไทยเมื่อครั้งอดีต ปัจจุบันหมู่บ้านปิยะมิตรยังอยู่เป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำให้กับบรรพชนรุ่นหลังที่อาศัยอยู่ ณ ที่นี้ อาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักของชาวหมู่บ้านปิยะมิตร และโครงการปลูกดอกไม้เมืองหนาว ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สวนหมื่นบุปผา เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกวัน มีค่าเข้าชมท่านละ 40 บาท รับประกันว่าท่านจะได้เห็นดอกไม้สวยๆ และต้นไม้แปลกตามากมาย และมีบ่อเลี้ยงปลา นอกจากนี้ยังมีโซนบ้านพักท่ามกลางบรรยากาศอันเย็นสบาย

อากาศที่สวนหมื่นบุปผาจะเย็นสบายตลอดทั้งปี เหมาะกับการปลูกไม้ที่ชอบอากาศเย็นมากๆ

 

7.ร้านวุ้นดำ ต้นตำหรับเฉาก๊วย ก.ม.4

มาเที่ยวเบตง ไม่ควรพลาดลองชิม เฉาก๊วย ก.ม.4 เจ้าต้นตำหรับดังเดิม ลักษณะของบ้านไม้สมัยก่อนที่อยู่ติดถนนตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ่อน้ำพุร้อนเบตง ภายในบ้านแห่งนี้เป็นแหล่งผลิตเฉาก๊วยอันโด่งดังที่นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันดีและมีรีวิวจากนักเดินทางมากมาย ความหอม ความมันและลงตัวของสูตรทำให้ใครมาทานก็บอกต่อให้คนอื่นๆได้มาลอง

 

 

8.ป้าย O.K. Betong กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองเบตงที่ต้องจอดรถถ่ายรูป

ตั้งอยู่ทางเข้าตัวเมืองเบตง ถนนสาย 410 ซึ่งเป็นถนนสายหลักตอนเข้าออกเมืองเบตง ป้ายโอเคเบตงได้กลายเป็นจุดเช็คอินที่ขาดไม่ได้สำหรับการมาเที่ยวเบตงที่ต้องแวะถ่ายรูปกับสวนเล็กๆ ที่มีจุดเด่นต้องตัวอักษร OK Betong ซึ่งตั้งอยู่ก่อนถึงใจกลางเมืองเบตงเพียง 20 นาที

ป้ายโอเคเบตง เราต้องแวะถ่ายรูปให้ได้ เพื่อประกาศว่าเราได้มาเที่ยวเบตงแล้ว

 

10.เบตง Skywalk ที่สุดของจุดชมทะเลหมอกของเบตง เดินสะพานเรือนกระจก ตื่นตี 4 ก็คุ้ม

จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง Skywalk Aiyerweng หนึ่งในไฮไลท์สำหรับการมาเที่ยวเบตงที่ทุกท่านต้องตื่นกันตั้งแต่ตี4 เพื่อมารอขึ้นชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ซึ่งมีอากาศหนาวตลอดทั้งปี นั่งรถออกมาจากตัวเมืองเบตงเพียง 40 นาที และเมื่อมาถึงที่ลานจอดรถก็จะมีรถของทาง อบต.อัยเยอร์เวงพาทุกท่านนั่งขึ้นไปยังอาคารจุดชมวิวและเราต้องต่อแถวเพื่อขอขึ้นไปชมวิวตรงจุดแลนด์มาร์คคือ ตรงสะพานเรือนกระจกพร้อมดูวิวทะเลหมอกจากมุมสูงสร้างความตื่นเต้นให้ทุกท่านได้ไม่น้อยเลยครับ สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง กำหนดจำนวนการขึ้นชมแต่ละรอบประมาร 360 บาทต่อรอบ อาคารโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่ แข่งแรกเห็นได้ชัดจากลานจอดรถมีความสูง 45 เมตร และใช้งบก่อสร้างกว่า 90 ล้านบาทกลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวเบตงได้ไม่น้อยในแต่ละปี

การได้ขึ้นมาชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวงคือหนึ่งในไฮไลท์ของการมาเที่ยวเบตงที่พลาดไม่ได้นะครับ

 

 

11.ตู้ไปรษณีย์เบตงใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

มาถ่ายรูปกับตู้ไปรษณีย์ที่สูงและใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยูใจกลางเมืองเบตง ใกล้ๆกับหอนาฬิกาวงเวียนเบตง ซึ่งถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2482 มีความสูงถึง 290 เมตร เห็นเด่นชัดใครมาเที่ยวเบตงจะต้องเห็นและแวะถ่ายรูปกันอย่างแน่นอน นอกจากนี้บริเวณตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกยังติดกับวงเวียนหอนาฬิกา ซึ่งตั้งตะหง่านอยู่กลางเมือง ซึ่งหอนาฬิกาเมืองเบตง สร้างด้วยหินอ่อนจากจังหวัดยะลา เสน่ห์ที่คู่หอนาฬิกาคือ นกนางแอ่นนับพันตัวที่เกาะสายไฟบริเวณหอนาฬิกา ซึ่งมีจำนวนมากช่วงเดือนกันยายนถึงมีนาคม เพราะนกนางแอ่นเหล่านี้บินหนีความหนาวเย็นมาจากไซบีเรีย เพื่อมาอิงแอบพักอาศัยที่เมืองเบตง

ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่ที่เบตงนี่เอง เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์ทที่ทำให้คนรู้จักเบตงมากขึ้น

 

 

12.ป้ายใต้สุดแดนสยาม ไปชมดินแดนประเทศไทยฝั่งติดกับประเทศมาเลเซีย

ตั้งอยู่บริเวณชายแดนระหว่างอำเภอเบตงกับรัฐเปรัคประเทศมาเลเซีย ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กิโลเมตร สร้างจากหินอ่อน มีการสลักสัญลักษณ์เป็นรูปแผนที่ประเทศไทยและข้อความด้วยสีทองโดดเด่นอยู่ภายในเนื้อหิน ผู้ที่มาเยือนเมืองเบตง ถ้าไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับป้ายใต้สุดสยาม ถือได้ว่ามาไม่ถึงเบตง จากตัวเมืองเบตงไปทางใต้ประมาณ 10 นาทีแวะถ่ายรูปและเช็คอินที่ดินแดนประเทศไทยทางใต้สุด ติดกับชายแดนมาเลเซียซึ่งคนไทยและมาเลเซียบริเวณชายแดนก็สามารถสื่อสารกันเป็นภาษามาลายูได้

 

 

13.อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อุโมงค์ผ่านภูเขาที่เป็นถนนสายแรกของประเทศไทย

ซึ่งตั้งอยู่ ณ บริเวณถนนอมรฤทธิ์ ตัดกับถนนภักดีดำรงผ่านสวนสาธารณะออกสู่ถนน บริเวณหน้าสวนนก เชื่อมต่อกับถนนมงคลประจักษ์ ทะลุไปสู่ชุมชนเมืองใหม่หมู่บ้านแกรนด์วิว และเชื่อมต่อกับถนนอัยเยอร์เบอร์จัง ไปสู่ชุมชนธารน้ำทิพย์อีกทอดหนึ่ง เป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของเมืองไทย ที่ขุดทอดโค้งให้รถวิ่งไป-มาก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความยาวตลอดอุโมงค์ ประมาณ 273 เมตร กว้าง 9 เมตร สูง 7 เมตร ผิวจราจรคู่ กว้าง 7เมตร ทางเท้าเดินกว้างข้างละ 1 เมตร ความเร็วรถสามารถวิ่งได้ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นักท่องเที่ยวหลายๆท่านรู้ว่ามีอุโมงค์เบตงแต่ก็ยังไม่เคยได้มาชมเมื่อมาเที่ยวที่เบตงก็ควรแวะรถแล้วลงไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก ณ อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ และใกล้ๆกันก็มี วงเวียนหอนาฬิกา ซึ่งเปรียบเสมือนใจกลางของเมืองเบตงที่เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ของเมืองเบตงนั้นเอง

 

 

 

แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเบตง

เบตง เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดยะลา และปัจจุบันนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเยอะมาก ด้วยสามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวกจากสนามบินหาดใหญ่ หรือ สามารถบินมาลงที่สนามบินเบตงได้เลย ครับ

และแหล่งท่องเที่ยวหลักๆของเบตงก็มีหลากหลาย รวมทั้งอาหารการกินที่มีเอกลักษณ์ เช่น กบภูเขา ผักน้ำ ไก่เบตง เมนูปลานิลสายน้ำไหล และหมี่เบตง เป็นต้น

อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์อุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรก
ของประเทศไทย

เที่ยวเบตง ชมอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ซึ่งตั้งอยู่ ณ บริเวณถนนอมรฤทธิ์ ตัดกับถนนภักดีดำรงผ่านสวนสาธารณะออกสู่ถนน
บริเวณหน้าสวนนก เชื่อมต่อกับถนนมงคลประจักษ์ ทะลุ
ไปสู่ชุมชนเมืองใหม่หมู่บ้านแกรนด์วิว และเชื่อมต่อกับถนนอัยเยอร์เบอร์จัง ไปสู่ชุมชนธารน้ำทิพย์อีกทอดหนึ่ง เป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขา
แห่งแรกของเมืองไทย ที่ขุดทอดโค้งให้รถวิ่งไป-
มาก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความยาวตลอดอุโมงค์
ประมาณ 273 เมตร กว้าง 9 เมตร สูง 7 เมตร ผิวจราจรคู่ กว้าง 7เมตร
ทางเท้าเดินกว้างข้างละ 1 เมตร ความเร็วรถสามารถวิ่งได้ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1มกราคม 2544 นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถถ่ายรูปกับรูปปั้นไก่เบตงที่อยู่บริเวณใกล้
เคียงกับปากอุงโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ซึ่งไก่เบตงนอกจากจะเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองเบตงแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของอำเภอเบตงอีกด้วย

 

บ่อน้ำพุร้อนเบตง เชื่อกันว่า กรดกำมะถันนั้น มีสรรพคุณมากมาย
ในการช่วยลดไขมัน บรรเทาอาการของโรคผิวหนังบางชนิด แก้โรคเหน็บชา และช่วยกระตุ้นจุดต่าง ๆ ของร่างกายให้ผ่อนคลาย บรรยากาศบริเวณรอบ ๆ น้ำพุร้อนเหมาะกับการพักผ่อนเพื่อสุขภาพ อีกทั้งยั้งมีบ่อพักน้ำที่สามารถลงไปแช่น้ำแร่ได้ และบ่อสำหรับต้มไข่ให้นักท่องเที่ยวได้ต้มแล้วปอกรับประทานได้
อย่างเพลิดเพลิน ซึ่งความร้อนของบ่อจะทำให้ไข่สุกภายใน 7 นาที นอกจากนี้ยังมีบริการห้องอาบน้ำแร่ไว้บริการแก่ผู้สนใจด้วย

 

สวนหมื่นบุปผาสวนไม้ดอกเมืองหนาว ตั้งอยู่ ณ หมู่บ้านปิยะมิตร 2 ซึ่งเดิมเคยเป็นหมู่บ้านของผู้ที่เข้าร่วมพัฒนาชาติไทยเมื่อครั้งอดีต ปัจจุบันหมู่บ้านปิยะมิตรยังอยู่เป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำ
ให้กับบรรพชนรุ่นหลังที่อาศัยอยู่ ณ ที่นี้ อาชีพเกษตรกรรม
เป็นอาชีพหลักของชาวหมู่บ้านปิยะมิตร และโครงการปลูกดอกไม้เมืองหนาว ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นโครงการส่งเสริมรายได้ให้กับชาวหมู่บ้านปิยะมิตรอีกทางหนึ่ง ความงดงามของไม้ดอกนานาพันธุ์ที่ถูกบรรจงปลูกเป็นทิวแถว บานสะพรั่งอยู่ทั่วเนินเขาที่ห้อมล้อมด้วยหุบเขาสูงในสภาพภูมิอากาศ
ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าพื้นที่อื่นของภาคใต้

 

ป้ายใต้สุดแดนสยาม ตั้งอยู่บริเวณชายแดนระหว่างอำเภอเบตง
กับรัฐเปรัคประเทศมาเลเซีย ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กิโลเมตร
สร้างจากหินอ่อน มีการสลักสัญลักษณ์เป็นรูปแผนที่ประเทศไทย
และข้อความด้วยสีทองโดดเด่นอยู่ภายในเนื้อหิน ผู้ที่มาเยือนเมืองเบตง ถ้าไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับป้ายใต้สุดสยาม ถือได้ว่ามาไม่ถึงเบตง

 

ตู้ไปรษณีย์สูง-ใหญ่ที่สุดในโลก
ตู้ไปรษณีย์ อาจเป็นสิ่งที่คุ้นตา กับชาวไทยเรา แล้วตู้ไปรษณีย์ที่มีขนาดความสูงกว่า 3 เมตร และมีเส้นรอบวงเกือบครึ่งเมตร

ตู้ไปรษณีย์แห่งนี้ ตั้งอยู่ ณ มุมถนนสุขยางค์ บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาตั้งแต่ปี 2467 เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กมีเส้นรอบวงของตัวตู้ประมาณ 140 ซม. ตู้มีความสูงถึง 290 ซม. นับจากฐานขึ้นไป รวมความสูงทั้งหมด
ประมาณ 320 ซม. อายุร่วม 80 ปี ในอดีตการเดินทางและการติดต่อสื่อสารระหว่างอำเภอเบตง
กับอำเภออื่น ๆ เป็นไปด้วยความยากลำบาก การติดต่อสื่อสารด้วยจดหมาย จึงสะดวกที่สุด โดยนายสงวน จิระจินดา นายกเทศมนตรีอำเภอเบตงในขณะนั้นเคยเป็นนายไปรษณีย์มาก่อน จึงได้จัดสร้างตู้ไปรษณีย์นี้ไว้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์การติดต่อสื่อสารของอำเภอเบตง และยังได้ติดตั้งวิทยุกระจายเสียงไว้ในส่วนบนของตู้ เพื่อให้ประชาชนได้รับฟังข่าวสารจากทางราชการด้วย
และปัจจุบันตู้ไปรษณีย์ใบนี้ ก็ยังใช้งานอยู่พร้อมบริการรับจดหมายเหมือนตู้ไปรษณีย์ทั่ว ๆ ไป และเพื่อความเป็นที่หนึ่งเพื่อสื่อถึงสัญลักษณ์แห่งการสื่อสาร
ของอำเภอเบตง เทศบาลเมืองเบตงจึงได้จำลองตู้ไปรษณีย์ขนาดใหญ่กว่าเดิม
ถึง 3.5 เท่า ตั้งอยู่ในบริเวณสวนมหาดไทย ศาลาประชาคม

 

ทะเลหมอกอัยเยอร์เวงและสกายวอล์ค

ตั้งอยู่ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา รายล้อมด้วยผืนป่า ขนาดใหญ่ ในเขตพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ กิโลเมตรที่ 32 มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,038 ฟุต ที่ผู้มาเยือนสามารถชื่นชมความงามของธรรมชาติได้แบบเต็มตา ซึ่งเวลาที่เหมาะสมที่สุดก็คือช่วงเช้า มืดก่อน พระอาทิตย์ขึ้น และอีกหนึ่งจุดชมวิวซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่คือ บริเวณยอดเขาฆูนุงชาลีปัต (ฆูนุงสาลี) ที่ต้องเดินป่าขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อชมทะเลหมอก ในมุมมองกว้าง 360 องศา เป็นอีกหนึ่ง Unseen Thailand ที่ผู้มาเยือนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสวยงามสุดๆ

 

วัดพุทธาธิวาส เบตง

ตั้งอยู่บนเนินเขาในตัวเมืองเบตง บริเวณวัดพุทธาธิวาส
ถนนรัตนกิจลักษณะเจดีย์ก่อสร้างแบบศรีวิชัยประยุกต์ สีทองอร่าม สูง 39.9 เมตร บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองถวายแด่
สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถในวโรกาสพระชนมายุครบ 60 พรรษา

ลักษณะเด่น พระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพพิธาน
พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย - วิหารหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด - วิหารพระครูพิศิษฐ์อรรถการ

ประวัติ ดพุทธาธิวาส ได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัด เมื่อวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๔๖๐ โดยมีคณะผู้เริ่มดำเนินการ คือ พระพิทักษ์ธานี (เล็ก), นายอำเภอเบตงในสมัยนั้น, นายพุ่ม คชฤทธิ์, นายกิมซุ้ย
ฟุ้งเสถียรและนายผล สุภาพ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๙๖ ได้ผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๐ วัดพุทธาธิวาส ตั้งอยู่เลขที่ ๖๕ ถนนรัฐกิจ หมู่ที่ ๑ ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย พื้นที่ตั้งวัดเป็นเนินเขาสูงเอียงลาดลงไปทางทิศเหนือ จัดแบ่งพื้นที่วัดออกเป็นชั้นรวม ๕ ชั้น วัดพุทธาธิวาส ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเนินเขามีพระธาตุเจดีย์
พระพุทธธรรมประกาศตั้งโดดเด่น
มองเห็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์สวยงามมาก

โดยในองค์มหาธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มหาธาตุเจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นจากความคิดและการดำเนินการ
ของอดีตประธานศาลฎีกา นายสวัสดิ์ โชติพานิช เพื่อเฉลิมฉลองและถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา

โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานนาม และเสด็จทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบนยอดฉัตรเมื่อวันที่ ๑๔ ต.ค. ๒๕๓๖
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ยกวัดพุทธาธิวาส
เป็นอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญตั้งแต่วันที่ ๒ เดือน ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๖

 

อุโมงค์ปิยะมิตร

อยู่ที่บ้านปิยะมิตร 1 ตำบลตะเนาะแมเราะ ใช้เส้นทางเดียวกับบ่อน้ำร้อนและน้ำตกอินทสร แต่อยู่เลยบ่อน้ำร้อนไปอีก 4 กิโลเมตร

หากใครชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงประวิติศาสตร์ ต้องไม่พลาด
"อุโมงค์ปิยะมิตร" ตั้งอยู่ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา อุโมงค์แห่งนี้ฝังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน กาลเวลาอาจทำให้ประวัติศาสตร์ของอุโมงค์ปิยะมิตรจืดจางลง
ไปจากความทรงจำ แต่ร่องรอยของสถานที่แห่งนี้กลับขับเน้นให้ได้ทบทวนถึงอดีต ด้วยความรู้สึกใหม่ แมกไม้นานาพรรณที่อยู่บริเวณปากทางเข้าอุโมงค์ปิยะมิตรนั้น ช่วยพรางอุโมงค์ความยาว 1 กิโลเมตร ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของบ้านปิยะมิตร ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา

ได้เป็นอย่างดี ในอดีต อุโมงค์ปิยะมิตรเคยถูกใช้เป็นฐาน
ในการหลบซ่อนตัว และเป็นแหล่งสะสมเสบียงในการต่อสู้ของกลุ่มผู้ขัดแย้งทางการเมือง
ในคาบสมุทรมาลายา ในเวลาต่อมากลุ่มผู้ที่เคยใช้อุโมงค์แห่งนี้
ในการพักพิง

ไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว หากแต่ห้องหับและร่องรอยที่พวกเขาทิ้งไว้ยังคงถูกจารึกเอาไว้
ให้คนรุ่นหลัง ได้ใช้ประโยชน์จากการรำลึกถึงอดีตแห่งการต่อสู้อันเจ็บปวด ภายในอุโมงค์ติดไปสีเหลืองส้มนวลตาแต่ก็ชวนให้นึกถึงภาพอดีต อุโมงค์ถูกแบ่งออกเป็นห้องหรือช่องต่าง ๆ ตามการใช้งาน เช่น ห้องนอน ห้องเก็บเสบียง เป็นต้น อากาศภายในเย็นสบายไม่อึดอัด ที่ตั้ง : อยู่ที่อำเภอเบตง การเดินทางโดยจากอำเภอเมืองยะลาไปเบตง ใช้ทางหลวงหมายเลข 40 ระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร จากอำเภอเบตงไปตามทางหลวงหมายเลข 410 เป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร แล้วแยกไปตามทางลาดยางอีก 11 กิโลเมตร ก็จะถึงอุโมงค์ปิยะมิตร ที่นี่เปิดให้เข้าทุกวัน เวลา 08.00-16.00น. และสามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี

 

 

ยอดเขาฆูนุงซีลีปัต

สามารถชมวิวทะเลหมอกได้ 360 องศาเช่นเดียวกัน โดยสามารถมาชมทะเลหมอกได้ทั้งปี แต่ช่วงที่จะสวยที่สุดก็อยู่ราวๆ เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน เนื่องจากท้องฟ้าจะเปิดเต็มที่ มองเห็นท้องฟ้าสีฟ้า ตัดกับทะเลหมอกสีขาวหนานุ่มเป็นปุยนุ่น

การขึ้นไปชมทะเลหมอกบนยอดเขาฆูนุงซีลีปัตนั้นต้องใช้แรงใจ
และแรงขาพอสมควร เนื่องจากเส้นทางการเดินขึ้นบนยอดเขานั้นมีความลาดชัน แม้จะมีระยะทางไม่ไกลมากนัก ราว 500-700 เมตร (แล้วแต่เส้นทางที่เดินขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 3 เส้นทาง เป็นเส้นทางที่เดินขึ้นจากทางรีสอร์ท และเส้นทางโดยการท่องเที่ยวชุมชน) ยิ่งในช่วงที่มีฝนตกทางเดินขึ้นจะลื่น และต้องปีนป่ายในบางช่วง แต่ก็จะมีเชือกติดตั้งไว้ตามรายทางเพื่อช่วยในการเดินขึ้นลง

สำหรับยอดเขาฆูนุงซีลีปัต มีความสูง 607 เมตร จากระดับน้ำทะเล ด้านบนยอดเขาเป็นลานหินขนาดไม่กว้างมากนัก จึงต้องมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินขึ้นด้านบนคราวละประมาณ 70-80 คน นักท่องเที่ยวที่จะเดินขึ้นเขา สามารถพักในตัวเมืองเบตงแล้วเดินทางมาในช่วงเช้ามืด หรือจะพักกางเต็นท์ค้างคืนบริเวณด้านล่างเขาก็ได้

 

พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง

เบตงเป็นภาษามลายู แปลว่าไม้ไผ่ เดิมเรียกว่าอำเภอระยม
ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2441 เป็นดินแดนภายใต้การปกครองดูแล
ของชนชาติไทย
ในยุคขยายอิธิพลและครอบครอง คณะผู้บริหารของเทศบาลอำเภอเบตงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ
ของเมืองเบตง จึงได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์เมืองเบตงขึ้นใน พ.ศ. 2548

เพื่อให้ท้องถิ่นได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม
และสิ่งแวดล้อมของคนในพื้นที่มากขึ้น พิพิธภัณฑ์เบตง มี 3 ชั้น
โดยส่วนของการจัดแสดงมี 2 ชั้น ซึ่งชั้นล่างเป็นพื้นที่จัดแสดง
นิทรรศการโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ
ข้าวของเครื่องใช้ในสมัยเก่า เช่น ถ้วยชาม เครื่องเคลือบ ตู้ เตียง
ตะเกียงเก่า โดยนำมาจัดแสดงไว้ในตู้ไม้กระจกใส
ตั้งอยู่หน้าบันไดทางขึ้น ส่วนชั้นที่ 2 มีการจัดแสดงรูปเก่า ๆ หนังสือพิมพ์ประวัติความเป็นมา โดยแขวนไว้บนฝาผนังของห้อง และมีการติดบอร์ดแสดงแหล่งข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว
ที่น่าสนใจของอำเภอเบตง นอกจากนี้ชั้นที่ 3 ยังเป็นหอคอยชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองเบตงทั้งเมืองได้

 

แพ็คเกจเที่ยวเบตงกรุ๊ปส่วนตัว
ทัวร์เบตง 3 วัน 2 คืน รับ-ส่งที่สนามบินหาดใหญ่ กรุ๊ปส่วนตัว
ทัวร์เบตง อัยเยอร์เวง 3 วัน 2 คืน ใต้สุดแดนสยาม เมืองงามในหุบเขา เราต้องไปให้ได้ OK..เบตง
เมนูเด่นในโปรแกรมนี้:: กบภูเขา ปลานิลสายน้ำไหล ไก่เบตง ผักน้ำ

 

ราคาเริ่ม 2,999 บาท

 

ทัวร์เบตงบินตรงสู่สนามบินเบตง 3 วัน 2 คืน
ทัวร์เบตง บินตรงก็...โอเค ชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เมนูเด่นในโปรแกรมนี้:: กบภูเขา ปลานิลสายน้ำไหล ไก่เบตง ผักน้ำ เฉาก๊วย ก.ม.4
เที่ยวเบตง ยะลา 3 วัน 2 คืน

 

ราคาเริ่ม 3,100 บาท

 

 

 

เที่ยวสนุกทัวร์ฯ ใบอนุญาต 41/00335 || Line:: @teawsanooktour || โทร 0887653620